จากข่าว2
> แม่เอาลูกแท้ๆเป็นผัว <<
แม่ค้าวัย 62 ได้เสียกับลูกชาย แท้ๆวัย41 ปี เป็นสามีภรรยาอยู่กินกัน มา 15 ปี
เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 24 พ.ย. ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ บุญพันธ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจาก รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ว่ามีคนถูกยิงมารักษาตัว ไปตรวจสอบ ทราบชื่อ นายสุรเชษฐ์สโมสร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 ถนนพัฒนาการ-คูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน .38 ที่กกหูขวา กระสุนฝังใน อาการสาหัส สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายสุรเชษฐ์ขี่รถ จยย.ผ่านทางแยกหน้าตลาดทวดทอง ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ ถูกคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ตามประกบยิงก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไป
ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนมีพยานหลักฐานยืนยันว่า ผู้บงการสังหารนายสุรเชษฐ์ คือนางถวิลย์ พะหะละ อายุ 62 ปี มารดาบังเกิดเกล้าของนายสุรเชษฐ์นั่นเอง จึงขออนุมัติหมายจับจากศาล ก่อนนำกำลังบุกเข้าจับกุม นางถวิลย์ได้ที่บ้านเลขที่ 85/4 หมู่ 2 ต.โพธิ์เสด็จ
นางถวิลย์ รับสารภาพว่า แต่งงานอยู่กินกับสามีคนแรกตั้งแต่อายุ 19 ปี มีลูกชาย 1 คน คือนายสุรเชษฐ์ ต่อมาได้แยกทางกับสามี แล้วไปมีสามีใหม่ มีบุตรอีก 3 คนจนกระทั่งสามีคนที่สองเป็นมะเร็งเสียชีวิตไปเมื่อ 15 ปีก่อน ตนต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 4 คน โดยเปิดแผงขายส่งผักและผลไม้อยู่ในตลาดหัวอิฐ ฐานะดีพอสมควร เนื่องจากกิจการค้าเจริญก้าวหน้า มีเงินฝากในธนาคารจำนวนมาก แต่ด้วยความเหงาใจ ประกอบกับความใกล้ชิดกับลูกชายที่อยู่ในวัยหนุ่มแน่น จนเผลอตัวเผลอใจได้เสียกับนายสุรเชษฐ์ ลูกชายแท้ๆ และอยู่กินกันเรื่อยมาเป็นที่รับรู้ของเพื่อนบ้าน
ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นายสุรเชษฐ์ไปได้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเมียน้อย เอาใจออกห่าง แยกตัวออกไปอยู่กับหญิงสาวคนใหม่ และขนเงินทองไปปรนเปรอให้ความสุขกันเต็มที่ หนำซ้ำในช่วงหลังเมียน้อยได้บุกเข้ามาด่าตนถึงในตลาด ว่าเป็นอีแก่บ้าง คนสารเลวเอาลูกทำผัวบ้าง ส่วนลูกชายก็กลายเป็นคนเหลวแหลก ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวเตร่และเล่นการพนัน รีดไถเงินตนจนแทบหมดตัว ล่าสุดพาพวกบุกปล้นกวาดทรัพย์สินในบ้านไปเกือบหมด ทั้งที่ตนยังรักและห่วงใย กลับถูกทอดทิ้ง จนกระทั่งหมดความอดทนเมื่อเมียน้อย ของลูกชายบุกมาหาเรื่องอีกจนมีการลงไม้ลงมือกัน ต่อมานายสุรเชษฐ์ก็มาตบตีตนเพื่อแก้แค้นให้เมียน้อย ด้วยความโกรธแค้นสุดขีด จึงตัดสินใจว่าจ้างมือปืนให้สังหารนายสุรเชษฐ์ในราคา 50,000 บาท จ่ายเงินมัดจำให้มือปืนไปแล้ว 5,000 บาท ที่เหลือนัดจ่ายเมื่องานสำเร็จ แต่กลับมาถูกตำรวจจับกุม
ข้อมูลเว็บthaibizcenter
แม่ค้าวัย 62 ได้เสียกับลูกชาย แท้ๆวัย41 ปี เป็นสามีภรรยาอยู่กินกัน มา 15 ปี
เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 24 พ.ย. ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ บุญพันธ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจาก รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ว่ามีคนถูกยิงมารักษาตัว ไปตรวจสอบ ทราบชื่อ นายสุรเชษฐ์สโมสร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 ถนนพัฒนาการ-คูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน .38 ที่กกหูขวา กระสุนฝังใน อาการสาหัส สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายสุรเชษฐ์ขี่รถ จยย.ผ่านทางแยกหน้าตลาดทวดทอง ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ ถูกคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ตามประกบยิงก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไป
ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนมีพยานหลักฐานยืนยันว่า ผู้บงการสังหารนายสุรเชษฐ์ คือนางถวิลย์ พะหะละ อายุ 62 ปี มารดาบังเกิดเกล้าของนายสุรเชษฐ์นั่นเอง จึงขออนุมัติหมายจับจากศาล ก่อนนำกำลังบุกเข้าจับกุม นางถวิลย์ได้ที่บ้านเลขที่ 85/4 หมู่ 2 ต.โพธิ์เสด็จ
นางถวิลย์ รับสารภาพว่า แต่งงานอยู่กินกับสามีคนแรกตั้งแต่อายุ 19 ปี มีลูกชาย 1 คน คือนายสุรเชษฐ์ ต่อมาได้แยกทางกับสามี แล้วไปมีสามีใหม่ มีบุตรอีก 3 คนจนกระทั่งสามีคนที่สองเป็นมะเร็งเสียชีวิตไปเมื่อ 15 ปีก่อน ตนต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 4 คน โดยเปิดแผงขายส่งผักและผลไม้อยู่ในตลาดหัวอิฐ ฐานะดีพอสมควร เนื่องจากกิจการค้าเจริญก้าวหน้า มีเงินฝากในธนาคารจำนวนมาก แต่ด้วยความเหงาใจ ประกอบกับความใกล้ชิดกับลูกชายที่อยู่ในวัยหนุ่มแน่น จนเผลอตัวเผลอใจได้เสียกับนายสุรเชษฐ์ ลูกชายแท้ๆ และอยู่กินกันเรื่อยมาเป็นที่รับรู้ของเพื่อนบ้าน
ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นายสุรเชษฐ์ไปได้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเมียน้อย เอาใจออกห่าง แยกตัวออกไปอยู่กับหญิงสาวคนใหม่ และขนเงินทองไปปรนเปรอให้ความสุขกันเต็มที่ หนำซ้ำในช่วงหลังเมียน้อยได้บุกเข้ามาด่าตนถึงในตลาด ว่าเป็นอีแก่บ้าง คนสารเลวเอาลูกทำผัวบ้าง ส่วนลูกชายก็กลายเป็นคนเหลวแหลก ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวเตร่และเล่นการพนัน รีดไถเงินตนจนแทบหมดตัว ล่าสุดพาพวกบุกปล้นกวาดทรัพย์สินในบ้านไปเกือบหมด ทั้งที่ตนยังรักและห่วงใย กลับถูกทอดทิ้ง จนกระทั่งหมดความอดทนเมื่อเมียน้อย ของลูกชายบุกมาหาเรื่องอีกจนมีการลงไม้ลงมือกัน ต่อมานายสุรเชษฐ์ก็มาตบตีตนเพื่อแก้แค้นให้เมียน้อย ด้วยความโกรธแค้นสุดขีด จึงตัดสินใจว่าจ้างมือปืนให้สังหารนายสุรเชษฐ์ในราคา 50,000 บาท จ่ายเงินมัดจำให้มือปืนไปแล้ว 5,000 บาท ที่เหลือนัดจ่ายเมื่องานสำเร็จ แต่กลับมาถูกตำรวจจับกุม
ข้อมูลเว็บthaibizcenter
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น